| เลขทะเบียน | 67130270 |
| เลขเรียกหนังสือ | ร ผ282ก 2562 |
| ชื่อผู้แต่ง | ผัสสพรรณ ถนอมพงษ์ชาติ |
| ชื่อเรื่อง | การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษและคุณธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 5 โดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์ : รายงานการวิจัย / ผัสสพรรณ ถนอมพงษ์ชาติ |
| สถานที่พิมพ์ | กรุงเทพฯ : คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2562 |
| ลักษณะรูปเล่ม | ก-ฏ, 206 หน้า : ภาพประกอบ |
| หมายเหตุ | งานวิจัยนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากเงินทุนเพื่อการวิจัย กองทุนคณะครุศาสตร์ ปี 2550 |
| สารบัญ | ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน -- การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน -- ประโยชน์ของการวัดผลสัมฤทธิ์ -- การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ -- คุณธรรม -- ความหมายของคุณธรรม -- การพัฒนาคุณธรรม -- การบันทึก -- ความหมายของการบันทึก -- ประโยชน์ของการบันทึก -- แนวทางการเขียนบันทึก -- การบันทึกแบบคอร์เนลล์ -- วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์ -- ประเภทของการบันทึก -- นิทาน -- ความหมายของนิทาน -- ประเภทของนิทาน -- นิทานอีสป |
| หัวเรื่อง | ภาษาอังกฤษ -- การศึกษาและการสอน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นิทานคติสอนใจ |
| ผู้แต่งเพิ่ม(นิติบุคคล) | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์ |
| ชื่อเรื่องเพิ่มเติม | The development of english achievements and moral of grade 4 and 5 students by using Aesop's fables and the Cornell note taking method. |
| สถานที่จัดเก็บ | ห้องสมุดอาจารย์ (แถบสีฟ้า) |
| Book Review | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษและคุณธรรมรวม 4 ด้าน ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญู ความเสียสละ และความเมตตากรุณา และพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนก่อนการสอนและหลังการสอนระหว่างกลุ่มที่ใช้วิธีสอนต่างกัน 2 วิธีคือกลุ่มที่สอนโดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์กับกลุ่มที่สอนด้วยวิธีการปกติและระหว่างชั้น 2 ชั้น คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4และชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2) ติดตามศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษและคุณธรรมรวม 4 ด้าน และพฤติกรรมการเรียนระหว่างเรียนรวม 8 ครั้งเฉพาะกลุ่มที่สอนโดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์ทั้งชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 5 (3) ศึกษาผลของรูปแบบการสอนและระดับชั้นที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาษาอังกฤษ คุณธรรมรวม 4 ด้าน และพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 31 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 คน เพื่อใช้เป็นกลุ่มทดลอง และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 คนเพื่อใช้เป็นกลุ่มเปรียบเทียบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษและคุณธรรมโดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ(A) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ(B) แบบวัดคุณธรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนโดยตนเองและแบบประเมินพฤติกรรมการเรียนโดยเพื่อน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยด้วยการทดสอบ t (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำและการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบ 2 ทาง ผลการวิจัยพบว่า (1) ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) ค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้านของกลุ่มตัวอย่างในระดับป.4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเป็นไปตามสมมติฐานวิจัย ส่วนค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการเรียนที่ประเมินโดยครูก่อนเรียนสูงกว่าหลังเรียนซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานวิจัย (2) ค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้าน และพฤติกรรมการเรียนที่ประเมินโดยครูของกลุ่มตัวอย่างในระดับป.5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมมติฐานวิจัย ส่วนค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) ก่อนเรียนต่ำกว่าหลังเรียนซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานวิจัย (3) ระดับชั้นที่แตกต่างกันมีผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) ส่วนวิธีการสอนที่แตกต่างกันมีผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่าไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระดับชั้นและวิธีการสอนที่ส่งผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) (4) ระดับชั้นและวิธีสอนที่แตกต่างกันมีผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (B) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่ามีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระดับชั้นและวิธีการสอนที่ส่งผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (B) (5) ระดับชั้นและวิธีสอนที่แตกต่างมีผลต่อค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้าน อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่าไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระดับชั้นและวิธีสอนที่ส่งผลต่อค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้าน The purpose of this research were to (1) Investigate the English achievement and moral including 4 areas: honest, gratefulness, sacrifice, kindliness and students’ learning behavior at the beginning and the end of the teaching between the two different teaching methods, the first teaching method was using Aesop’s fables and the Cornell Note Taking method. The second teaching method was the traditional method and 2 different levels were grade 4 and grade 5. (2) To follow up the English achievement, morals and learning behavior of the experimental group during the teaching period for 8 times. (3) To explore the effectiveness of teaching method and student level in English achievement, morals and students’ learning behavior. The samples students were assigned into 2 experimental groups. They consisted of 31 students of grade 4 and 40 students of grade 5. Another 2 groups were assigned to control groups. They consisted of 30 students of grade 4 and 40 students of grade 5. Researcher collected data by (1) English achievement test A and B (2) Moral test (3) Learning behavior evaluation form evaluated by teacher (4) Self learning behavior evaluation (5) Learning behavior evaluation form evaluated by friend. All data were analyzed by descriptive statistics, means comparison using t-test, repeated measured analysis of variance and two-way ANOVA. The findings were: (1) The English achievements post-test mean and the morals post-test mean in grade 4 were higher than pre-test mean. The results were based on the assumption. The learning behavior evaluated by teacher pre-test mean was higher than the post-test mean. It was not consistent with the research assumption. (2) The moral post-test mean and the learning behavior evaluated by teacher post-test mean in grade 5 were higher than pre-test mean. The results were based on the assumption. The English achievement test (A) post-test mean was less than the pre-test mean. It was not consistent with the research assumption. (3) The different level affects the English achievement test (A). The different teaching method affects the English achievement test (A) was not significantly different at .05 level and there was no interaction both of level and teaching method to the English achievement test (A). (4) The different level and teaching method affect the English achievement (B) were not significantly different at .05 level and there was an interaction of both level and teaching method to the English achievement test B. The different level and teaching method affect B were not statistically significant at level .05 |
16.2 Gold
ฐานข้อมูล หนังสือ
